คู่มืออพาร์ตเมนต์ในโตเกียว: ภาพรวมและราคาค่าเช่าในย่านอาซาบุจูบัง
18 มีนาคม 2568

โตเกียวมีหลากหลายย่านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับชาวต่างชาติที่เริ่มต้นชีวิตใหม่ในญี่ปุ่น การเลือกย่านที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องที่ต้องคิดอย่างรอบคอบ ย่านอาซาบุจูบัง (Azabu Juban) เป็นย่านที่ผสมผสานระหว่างความเป็นสากลและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว และได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย
ย่านนี้มีการคมนาคมสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ร้านค้าและร้านอาหารครบครัน และยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย
บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาย้ายมาอยู่ในย่านอาซาบุจูบังอย่างละเอียด
อาซาบุจูบังในโตเกียวเป็นย่านแบบไหน?

อาซาบุจูบังเป็นย่านที่มีชื่อเสียงในฐานะย่านที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ตั้งอยู่ใกล้กับรปปงหงิ (Roppongi) ซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงชื่อดังของญี่ปุ่น แต่ยังคงมีบรรยากาศเงียบสงบ โดยเฉพาะถนนช้อปปิ้งอาซาบุจูบัง (Azabu Juban Shopping Street) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้ มีร้านค้าประมาณ 400 ร้านเรียงรายตามถนนหินกรวด ทั้งร้านเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี และคาเฟ่หรือร้านอาหารสมัยใหม่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ถนนสายนี้มีทัศนียภาพที่สวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรป และเป็นสถานที่ที่สะท้อนการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นและไลฟ์สไตล์โมเดิร์น
อาซาบุจูบังยังเป็นย่านที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก มีบรรยากาศแบบนานาชาติ ใกล้เคียงยังมีสถานทูตและโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมระดับโลก พร้อมกับสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นไปพร้อมกัน
การเดินทางและความสะดวกสบายในย่านอาซาบุจูบัง
อาซาบุจูบังตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว มีการเดินทางที่สะดวกมาก สามารถใช้รถไฟหรือรถบัสเพื่อเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในเมืองได้อย่างง่ายดาย
ข้อมูลรถไฟ

สถานี Azabu Juban มีรถไฟ 2 สายให้บริการ ได้แก่ Toei Oedo Line และ Tokyo Metro Namboku Line ซึ่งช่วยให้สามารถเดินทางไปยังสถานีสำคัญต่าง ๆ ในโตเกียวได้อย่างสะดวก โดยสามารถเดินทางไปยัง Shinjuku หรือ Roppongi ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟผ่าน Oedo Line ส่วน Namboku Line เหมาะสำหรับการเดินทางไปยังสถานี Meguro, Korakuen และ Tameike-Sanno
Destination | Time Required | Transfers | Routes |
---|---|---|---|
Tokyo Station | ประมาณ 18 นาที | 1 | Namboku Line → Chiyoda Line |
Shinjuku Station | ประมาณ 12 นาที | 0 | Oedo Line |
Shibuya Station | ประมาณ 16 นาที | 1 | Oedo Line → Hanzomon Line |
สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ ชานชาลาของสถานี Azabu Juban อยู่ลึกลงไปใต้ดิน การเดินจากทางเข้าสถานีไปยังชานชาลาอาจใช้เวลาสักครู่ โดยเฉพาะชานชาลาของ Oedo Line ที่อยู่ลึกถึงชั้นใต้ดินชั้น 6 จำเป็นต้องใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อนในการเข้าถึง
ข้อมูลรถบัส
ในย่านอาซาบุจูบัง มีบริการรถบัสทั้ง Toei Bus และ Community Bus โดยเฉพาะเส้นทางไปยัง Shibuya หรือ Gotanda สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ซึ่งสะดวกกว่าการใช้รถไฟในบางกรณี
นอกจากนี้ ยังมี Community Bus ของเขต Minato ที่เรียกว่า “Chii Bus” ซึ่งให้บริการหลายเส้นทาง เช่น Azabu Route และ Tamachi Route รถบัสเหล่านี้เหมาะสำหรับการเดินทางภายในเขต โดยภายในรถจะมีหน้าจอแสดงข้อมูลทั้งภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลี พร้อมเสียงประกาศภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ ทำให้ผู้โดยสารที่ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ
พื้นที่รอบสถานี Azabu Juban น่าอยู่หรือไม่? จุดเด่น 7 ข้อของพื้นที่นี้
Azabu Juban ไม่เพียงแต่เป็นย่านพักอาศัยระดับไฮเอนด์ แต่ยังเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและเสน่ห์ทางวัฒนธรรม อยู่ใกล้กับ Roppongi และ Tokyo Tower ในระยะเดินถึง แต่ยังคงมีสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ พร้อมทั้งถนนช้อปปิ้งประวัติศาสตร์และบรรยากาศแบบนานาชาติ นอกจากนี้ ยังมีงานเทศกาลประจำปี เช่น Azabu Juban Noryo Festival รวมถึงโรงอาบน้ำแบบญี่ปุ่นโบราณ ทำให้พื้นที่นี้เป็นการผสมผสานระหว่างประเพณีและไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ต่อไปนี้คือ 7 จุดเด่นของ Azabu Juban ที่ทำให้น่าอยู่อาศัย:
1. ย่านพักอาศัยระดับไฮเอนด์ของคนดังและผู้บริหารระดับสูง
Azabu Juban เป็นที่รู้จักว่าเป็นย่านพักอาศัยของคนดังและผู้บริหารระดับสูง ในชีวิตประจำวัน คุณอาจพบเจอดาราหรือบุคคลสำคัญตามถนนโดยไม่ใช่เรื่องแปลก อาคารรอบสถานีส่วนใหญ่เป็นแมนชั่นหรูหรา และหากเดินไปทางทิศใต้ จะพบกับพื้นที่ Minami-Azabu และ Moto-Azabu ที่เต็มไปด้วยบ้านพักขนาดใหญ่และสถานทูตต่าง ๆ ทำให้พื้นที่นี้เงียบสงบและเหมาะแก่การอยู่อาศัยมากขึ้น
2. ถนนช้อปปิ้งเก่าแก่และซุปเปอร์มาร์เก็ตครบครัน สะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
แม้ Azabu Juban จะดูเหมือนเป็นย่านหรูหรา แต่จริง ๆ แล้วกลับสะดวกต่อการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต Daiei Azabu Juban Store ที่เปิดตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าจนถึงตี 3 ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ต Seijo Ishii ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าเมื่อใดก็ได้ รวมถึงร้านค้าเก่าแก่อย่าง Naniwaya Supermarket ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Roast Beef อีกด้วย หากต้องการสินค้านำเข้า แนะนำ Nissin World Delicatessen ที่รวบรวมสินค้าอาหารจากยุโรปและอเมริกาไว้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่คิดถึงรสชาติอาหารจากบ้านเกิดของตนเอง
3. ร้านอาหารหลากหลาย

อาซาบุจูบังเป็นย่านที่รวมร้านอาหารหลากหลายประเภท ทั้งอิตาเลียน ฝรั่งเศส จีน และอาหารญี่ปุ่น บริเวณรอบสถานีมีร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks และ Tully's รวมถึงคาเฟ่เล็ก ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะหาที่ดื่มกาแฟไม่ได้
ร้านอาหารมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ร้านอาหารราคาย่อมเยาไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลิน โดยเฉพาะร้าน "Soba Horii" ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี ถือเป็นร้านโซบะที่เป็นตัวแทนของย่านอาซาบุจูบัง
สำหรับคนที่ชอบของหวาน แนะนำให้ลองชิม "ไทยากิ" จากร้าน "Naniwaya Sohonten" ที่มีประวัติยาวนานกว่า 110 ปี ไทยากินี้มีลักษณะเฉพาะตัวคือ แป้งบางกรอบ และไส้ถั่วแดงที่หวานพอดี เป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
สำหรับร้านอาหารที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ "Frijoles BURRITOS & SALAD" เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารเม็กซิกันแท้ ๆ โดยเฉพาะเบอร์ริโต้ที่สามารถเลือกส่วนผสมได้ตามใจชอบ
การอาศัยอยู่ในอาซาบุจูบัง คุณสามารถลิ้มลองอาหารจากร้านที่แตกต่างกันได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก หรืออาหารนานาชาติ ทุกรสชาติล้วนพร้อมที่จะเติมเต็มความอร่อยให้กับคุณ
4. ทำเลที่ตั้งสะดวกสำหรับการช้อปปิ้งและความบันเทิง
หนึ่งในเสน่ห์ของอาซาบุจูบังคือการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโตเกียวได้อย่างสะดวก จากสถานีอาซาบุจูบัง เดินเพียง 5 นาทีก็ถึง Roppongi Hills ซึ่งมีร้านแบรนด์เนมหรู ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะมากมาย นอกจากนี้ Tokyo Midtown ก็อยู่ในระยะเดินถึง ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและอาหารอร่อย ๆ ได้เช่นกัน ในยามค่ำคืน Roppongi กลายเป็นย่านบาร์และคลับที่คึกคัก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชีวิตกลางคืน
นอกจากนี้ "Tokyo Tower" สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวก็อยู่ใกล้ ๆ สามารถเดินจากอาซาบุจูบังไปถึงได้ จากหอคอยสูง 333 เมตรนี้ คุณสามารถชมวิวอันงดงามของโตเกียว และในวันที่อากาศดี คุณอาจจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย ในยามค่ำคืน Tokyo Tower จะสว่างไสวด้วยแสงไฟ มอบทัศนียภาพยามค่ำคืนที่สวยงาม หากคุณเริ่มชีวิตในโตเกียว นี่เป็นสถานที่ที่คุณควรแวะไปเยี่ยมชมสักครั้ง
5. พื้นที่สีเขียวอุดมสมบูรณ์ และสวนสาธารณะมากมาย
แม้อาซาบุจูบังจะเป็นย่านในเมือง แต่ก็มีสวนสาธารณะมากมาย และมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ได้เล่นสนุก
สวนสาธารณะที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ได้แก่:
- สวน Ichinohashi (ใกล้สถานี มีน้ำพุ)
- สวน Sakurazaka (สวนหุ่นยนต์) (มีเครื่องเล่นที่เป็นเอกลักษณ์)
- สวน Arisugawa-no-miya Memorial Park (จุดชมซากุระที่มีชื่อเสียง เหมาะสำหรับการเดินเล่น)
นอกจากนี้ สวน Mori Garden ใน Roppongi Hills และสวน Shiba Park ก็อยู่ในระยะเดินถึง ทำให้คุณสามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
6. สถานทูตและโรงเรียนนานาชาติจำนวนมาก
ในเขต Minato ของโตเกียวมีสถานทูตถึง 80 แห่ง โดยมากกว่าครึ่งตั้งอยู่ในย่านอาซาบุ โดยเฉพาะในพื้นที่ Minami-Azabu และ Moto-Azabu มีสถานทูตหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วไป นักการทูตและพนักงานประจำจากต่างประเทศพร้อมครอบครัวอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีการสนับสนุนที่ครอบคลุมสำหรับชาวต่างชาติในพื้นที่
เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมนี้ รอบ ๆ อาซาบุจูบังจึงมีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น "Tokyo International School" ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองหลักสูตร International Baccalaureate มีนักเรียนจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลกมาเรียนที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเนื่องจากการทำงานของผู้ปกครอง
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนนานาชาติอื่น ๆ ที่มีแนวคิดทางการศึกษาที่หลากหลาย การอาศัยอยู่ในอาซาบุจูบันทำให้คุณสามารถรักษาการเชื่อมต่อกับชุมชนนานาชาติได้แม้จะอยู่ในญี่ปุ่น นี่เป็นหนึ่งในเสน่ห์ที่สำคัญของย่านนี้
7. สามารถสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีและกิจกรรมต่าง ๆ
"เทศกาล Azabu Juban Noryo" ที่จัดขึ้นทุกเดือนสิงหาคมเป็นงานใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมประมาณ 300,000 คนในช่วงสองวัน นอกจากร้านค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีบูธอาหารที่นำเสนออาหารจากหลากหลายประเทศ ทำให้เป็นเทศกาลที่มีบรรยากาศนานาชาติ โดยมีชาวต่างชาติเข้าร่วมจำนวนมาก ผู้เข้าร่วมงานหลายคนสวมชุดยูกาตะ ทำให้คุณสามารถสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ที่ "Azabu Kuromizu Onsen Takenoyuบ" ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี คุณสามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นน้ำดำซึ่งหาได้ยากในใจกลางโตเกียว การได้ผ่อนคลายในออนเซ็นท่ามกลางเมืองใหญ่ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์เฉพาะตัวของอาซาบุจูบัง
ราคาค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ในอาซาบุจูบัง
ราคาค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ในอาซาบุจูบังมีดังนี้:
Studio | 1 Bedroom | 2 Bedrooms | 3 Bedrooms | |
---|---|---|---|---|
สถานี Azabu Juban | 143,400〜193,000 เยน | 249,200〜305,800 เยน | 186,700〜499,100 เยน | 294,900〜670,000 เยน |
สถานี Ebisu | 131,000〜145,300 เยน | 133,000〜277,300 เยน | 185,000〜421,000 เยน | 313,000〜480,000 เยน |
สถานี Meguro | 124,400〜132,700 เยน | 135,600〜258,000 เยน | 180,800〜402,000 เยน | 483,300〜517,000 เยน |
ราคาค่าเช่าเหล่านี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับพื้นที่รอบสถานี Ebisu และ Meguro อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อมที่ดีของอาซาบุจูบัง สำหรับชาวต่างชาติจำนวนมาก นี่อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
สรุป
อาซาบุจูบังไม่เพียงแต่เป็นย่านที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ แต่ยังเป็นย่านที่มีความเป็นนานาชาติและสะดวกสบายในการใช้ชีวิต มีทั้งการคมนาคมที่สะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ครบครัน ร้านอาหารที่หลากหลาย และสภาพแวดล้อมที่เขียวชอุ่ม
แม้ว่าค่าเช่าที่นี่จะสูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ ในโตเกียว แต่ก็มาพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่สูงเช่นกัน โดยเฉพาะบรรยากาศความเป็นนานาชาติและการสนับสนุนที่ครอบคลุมสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับชาวต่างชาติที่กำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ในญี่ปุ่น
หากคุณกำลังพิจารณาที่จะอาศัยอยู่ในอาซาบุจูบัง โปรดพิจารณาเสน่ห์ของย่านนี้ควบคู่ไปกับความต้องการและงบประมาณของคุณ เชื่อว่าที่นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับชีวิตในโตเกียวของคุณ