Key Money ในญี่ปุ่นคืออะไร? ทำความเข้าใจ Shikikin, Reikin และสิ่งที่ชาวต่างชาติต้องรู้

17 กันยายน 2568

การเข้าชมห้องเช่า

Key Money คืออะไร? ความแตกต่างระหว่าง Reikin และ Shikikin

ในการเช่าอพาร์ตเมนต์หรือบ้านในญี่ปุ่น คุณมักจะพบคำว่า “shikikin” (เงินมัดจำ) และ “reikin” (ค่า Key Money) อยู่เสมอ ในภาษาอังกฤษบางครั้งจะเรียกรวมกันว่า “key money” แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองคือค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับชาวต่างชาติอาจสร้างความสับสนได้ ดังนั้นเรามาอธิบายให้เข้าใจกันอย่างชัดเจน

Reikin (Key Money, ค่าธรรมเนียมที่ไม่สามารถขอคืนได้)

Reikin คือค่าธรรมเนียมที่ไม่สามารถขอคืนได้ ซึ่งจ่ายให้เจ้าของห้องเพื่อแสดงความขอบคุณในการอนุญาตให้เช่าห้อง จุดสำคัญที่สุดที่ควรรู้คือ คุณจะไม่ได้รับเงินส่วนนี้คืนหลังจากย้ายออก โดยปกติจะเป็นการจ่ายครั้งเดียวในตอนเริ่มทำสัญญา และเป็นระบบเฉพาะของญี่ปุ่น ซึ่งแทบไม่พบในประเทศอื่น

จำนวนเงินมักจะเท่ากับค่าเช่า 1–2 เดือน แต่ก็อาจแตกต่างตามพื้นที่หรือประเภทห้อง อย่างไรก็ตาม reikin ไม่ได้ใช้กันทั่วประเทศ เช่น “ห้องเช่าแบบไม่เก็บ Key Money” พบได้ทั่วไปในฮอกไกโด โอกินาว่า บางพื้นที่ในโทโฮคุ (อาโอโมริ อาคิตะ) และฟุกุโอกะในคิวชู ในทางกลับกัน reikin ยังคงพบได้บ่อยในโตเกียว เกียวโต และโอซาก้า ที่ผู้เช่ามักถูกคาดหวังว่าจะต้องจ่าย

Shikikin (เงินมัดจำ, ขอคืนได้)

Shikikin คือเงินมัดจำที่สามารถขอคืนได้ ใช้สำหรับครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือทำความสะอาดเมื่อย้ายออก ปกติมีมูลค่า 1–2 เดือนของค่าเช่า และเก็บในตอนเซ็นสัญญา เช่นเดียวกับ reikin อัตราทั่วไปมักอยู่ที่ 1–2 เดือนค่าเช่า แต่บางเจ้าของอาจกำหนดมากหรือน้อยกว่านี้

เมื่อย้ายออก เจ้าของห้องจะหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซม แล้วคืนเงินส่วนที่เหลือให้ ดังนั้น shikikin จึงทำหน้าที่เป็นการประกัน แตกต่างจาก reikin อย่างสิ้นเชิง

ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอื่น ๆ

บริษัทประกันการเช่าและประกันอัคคีภัย

นอกจาก reikin และ shikikin แล้ว การเช่าในญี่ปุ่นยังมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอื่น ๆ ที่ควรรู้ เช่น ค่าคอมมิชชั่นของเอเจนซี่ (จ่ายให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์) ค่าเช่าล่วงหน้า สำหรับเดือนแรก (หรือบางส่วนของเดือน) และ ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย สำหรับหลาย ๆ คน ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจไม่คุ้นเคย และบางครั้งถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “key money” แต่ในความจริงแล้วแต่ละค่าใช้จ่ายมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน

ต่อไปเราจะอธิบายเกี่ยวกับ บริษัทประกันการเช่า ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกัน

ทำไมญี่ปุ่นถึงมีธรรมเนียม Key Money?

การขาดแคลนที่อยู่อาศัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ธรรมเนียม reikin เริ่มแพร่หลังก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ เนื่องจากความต้องการสูงกว่าปริมาณห้องเช่ามาก เจ้าของบ้านจึงให้ความสำคัญกับผู้เช่าที่สามารถจ่ายค่าตอบแทนพิเศษได้ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้ได้พัฒนาเป็นระบบ reikin มาตรฐาน แม้ว่าปัญหาที่อยู่อาศัยจะหมดไปนานแล้ว แต่ธรรมเนียมนี้ก็ยังคงสืบต่อมาจนปัจจุบัน

วัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับความเชื่อใจและการเคารพ

ในญี่ปุ่น ความเชื่อใจระหว่างบุคคลมีความสำคัญพอ ๆ กับสิ่งที่เขียนไว้ในสัญญา การเช่าบ้านไม่ได้มองว่าเป็นเพียงธุรกรรม แต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของบ้านและผู้เช่า Reikin จึงพัฒนาเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญู เสมือนเป็น “ของขวัญ” เพื่อบอกว่า “ขอบคุณที่ให้ฉันได้อยู่ที่นี่” การที่ไม่สามารถขอคืนได้สะท้อนถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับความไว้วางใจและความเคารพในความสัมพันธ์นี้

ปัญหาที่ชาวต่างชาติมักเจอเกี่ยวกับ Key Money

ความสับสนระหว่าง Reikin และ Shikikin

หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือ การเข้าใจผิดว่า reikin เหมือนกับ shikikin แต่จริง ๆ แล้ว reikin ไม่สามารถขอคืนได้ หลายคนจึงเข้าใจผิดว่าจะได้รับคืนหลังย้ายออก ซึ่งทำให้เกิดข้อขัดแย้งกับเจ้าของหรือเอเจนซี่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรตรวจสอบล่วงหน้าว่าค่าธรรมเนียมใดคืนได้ และค่าธรรมเนียมใดคืนไม่ได้

การหักเงินมัดจำที่สูงเกินไป

แม้ shikikin ตั้งใจจะคืนหลังย้ายออก แต่บางผู้เช่าก็ถูกเรียกเก็บค่าทำความสะอาดหรือซ่อมแซมสูงเกินจริง กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ได้กำหนดแนวทางอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ “การคืนสภาพ (genjō kaifuku 原状回復)” หรือการคืนห้องให้อยู่ในสภาพเดิม เจ้าของไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากการสึกหรอตามการใช้งานปกติได้ การรู้สิทธิของคุณจะช่วยป้องกันการถูกหักเกินจริง

อุปสรรคด้านภาษาและความเสี่ยงของสัญญา

อีกปัญหาคือการเซ็นสัญญาโดยไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมด สัญญาเช่ามักมีศัพท์กฎหมายที่ซับซ้อน ทำให้ชาวต่างชาติที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นอาจเผลอตกลงเงื่อนไขที่ไม่เป็นประโยชน์ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการทำงานกับเอเจนซี่ที่มี บริการภาษาอังกฤษที่ชัดเจน และสามารถอธิบายรายละเอียดสัญญาก่อนไปเซ็น

Key Money สามารถต่อรองได้หรือไม่? เทรนด์และกลยุทธ์ล่าสุด

อพาร์ตเมนต์แบบ Zero-Key-Money และห้องเช่าแบบไม่ต้องวางเงินมัดจำที่เพิ่มขึ้น

ในอพาร์ตเมนต์ใหม่และห้องเช่าที่เน้นกลุ่มชาวต่างชาติ เจ้าของบ้านเริ่ม ยกเลิกการเก็บ reikin มากขึ้น เนื่องจาก key money ทำให้ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง การยกเลิกจึงช่วยดึงดูดผู้เช่าได้ง่ายขึ้น ในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโอซาก้า โฆษณา “zero key money” พบเห็นได้บ่อยขึ้นกว่าเดิม

มีโอกาสต่อรองได้

Key money ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่ตายตัวเสมอไป บางครั้งเจ้าของอาจยอมลดหรือยกเลิก reikin หากผู้เช่าทำสัญญาระยะยาว หรือพร้อมจะเซ็นทันที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และตัวห้อง แต่การลองต่อรองก่อนเซ็นสัญญาก็ถือว่าคุ้มค่า

การเลือกเอเจนซี่ที่เหมาะสมสำคัญมาก

การต่อรองที่ประสบความสำเร็จมักขึ้นอยู่กับเอเจนซี่ที่สนับสนุน หากเป็นเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์กับชาวต่างชาติ พวกเขาจะให้คำแนะนำและช่วยเจรจาแทนคุณได้ การใช้แพลตฟอร์มเฉพาะอย่าง Japan Property จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับ เอเจนซี่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ ซึ่งเข้าใจความต้องการของผู้เช่าต่างชาติและเพิ่มโอกาสในการได้เงื่อนไขที่ดี

บริษัทประกันการเช่าในญี่ปุ่นคืออะไร?

ในการเช่าห้องที่ญี่ปุ่น เจ้าของส่วนใหญ่จะกำหนดให้มี “ผู้ค้ำประกันร่วม” ที่ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเช่าแทนหากผู้เช่าผิดนัด ซึ่งเป็นระบบเฉพาะของญี่ปุ่นที่ทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะไม่ค่อยพบในประเทศอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์นี้ ญี่ปุ่นจึงมี บริษัทประกันการเช่า หรือบริการค้ำประกันที่คล้ายกับระบบผู้ค้ำประกันในตะวันตก แต่ดำเนินการโดยบริษัท

คุณสมบัติที่ 1: เช่าได้โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่มีครอบครัวหรือเพื่อนสนิทในญี่ปุ่น การหาผู้ค้ำประกันเป็นอุปสรรคใหญ่ แต่การใช้บริการบริษัทประกันการเช่าช่วยให้คุณเลี่ยงปัญหานี้และสามารถเซ็นสัญญาได้อย่างราบรื่น คล้ายระบบผู้ค้ำในประเทศตะวันตก แต่ให้บริการโดยบริษัทมืออาชีพ ทำให้ชาวต่างชาติหลายคนสามารถเช่าได้ง่ายขึ้น

คุณสมบัติที่ 2: ครอบคลุมการค้างค่าเช่าและสร้างความมั่นใจให้เจ้าของ

หากผู้เช่าล่าช้าหรือไม่จ่ายค่าเช่า บริษัทประกันจะชำระแทนให้เจ้าของทันที ทำให้เจ้าของลดความเสี่ยงและมีแนวโน้มที่จะปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่ใช้บริการค้ำประกันมักมีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงกว่า

คุณสมบัติที่ 3: กระบวนการทำสัญญาและต่อสัญญาง่าย

แม้การใช้บริษัทประกันการเช่าต้องยื่นสมัครและเซ็นสัญญา แต่โดยมากแล้วบริษัทอสังหาริมทรัพย์จะช่วยจัดการเรื่องเอกสารแทน หากเลือกเอเจนซี่ที่มีบริการภาษาอังกฤษก็จะง่ายและลดความกังวลมากขึ้น กระบวนการต่อสัญญาก็ตรงไปตรงมา เหมาะกับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยระยะยาว

ทำไม Japan Property จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ

เอเจนซี่ที่พูดภาษาอังกฤษได้

ระบบการเช่าของญี่ปุ่นมีธรรมเนียมเฉพาะที่อาจทำให้ชาวต่างชาติรู้สึกสับสน Japan Property จึงเป็นเครื่องมือที่มีค่าอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้คุณค้นหาห้องเช่าเป็นภาษาอังกฤษ และเชื่อมต่อกับเอเจนซี่ที่เชื่อถือได้ ทำให้หาห้องได้โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาภาษาและวัฒนธรรม จุดเด่นหลัก ได้แก่:

  • Neighborhood Guides: ค้นหาพื้นที่อยู่อาศัยตามไลฟ์สไตล์ การเดินทาง และงบประมาณ
  • Partner Agencies: ร่วมงานกับเอเจนซี่ที่เชื่อถือได้และเข้าใจความต้องการของชาวต่างชาติ พร้อมเจรจาและอธิบายสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ
  • Latest Listings: เริ่มค้นหาห้องเช่าได้ทันทีในภาษาอังกฤษ

สรุป: การเข้าใจ Key Money คือก้าวแรกในการเช่าบ้านในญี่ปุ่น

Shikikin และ Reikin คือคุณลักษณะสำคัญของระบบการเช่าญี่ปุ่น แม้จะไม่คุ้นเคยสำหรับชาวต่างชาติ แต่ทั้งสองสะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเฉพาะของญี่ปุ่น การเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้หาห้องได้อย่างมั่นใจและราบรื่น

การเข้าใจพื้นฐานทางวัฒนธรรมจะช่วยให้คุณทำสัญญาได้ดียิ่งขึ้น Shikikin และ Reikin ไม่ใช่เพียงภาระทางการเงิน แต่ยังสะท้อนถึงธรรมเนียมความเชื่อใจและการอยู่ร่วมกันของญี่ปุ่น การเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก่อนเซ็นสัญญาจะช่วยหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้ง และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในญี่ปุ่นได้อย่างมั่นคง

รับข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อเริ่มหาห้องอย่างมั่นใจ สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการเช่าในญี่ปุ่น สามารถอ่าน Neighborhood Guides สำรวจ ห้องเช่าล่าสุด หรือเชื่อมต่อกับ เอเจนซี่ที่เชื่อถือได้ หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้านในอนาคต สามารถเข้าไปที่ คู่มือการซื้อบ้าน เพื่อเรียนรู้ขั้นตอนทีละขั้นได้